ให้นักศึกษาอ่านแล้วตอบคำถามประเด็นต่อไปนี้
(40 คะแนน)
1.ความหมายคำว่า
กฎหมายรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ พระราชกำหนด
พระราชกฤษฎีกา เทศบัญญัติ
ตอบ กฎหมายรัฐธรรมนูญ คือ
กฎหมายสูงสุดในการจัดระเบียบการปกครองประเทศ
ซึ่งจะวางระเบียบแห่งอำนาจสูงสุดของรัฐหรืออำนาจอธิปไตย ได้แก่
อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ
ตลอดจนการกำหนดสิทธิเสรีภาพและหน้าที่ของชนชาวไทย
พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คือ กฎหมายที่พระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้นโดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา
เป็นกฎหมายหลักที่สำคัญที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน
พระราชบัญญัติเป็นกฎหมายที่มีลำดับชั้นรองลงมาจากกฎหมายรัฐธรรมนูญ
พระราชบัญญัติที่สำคัญที่รัฐสภาตราออกมาใช้บังคับ
พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) คือกฎหมายที่พระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้นตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี
การตราพระราชกำหนดให้กระทำได้เฉพาะเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นเร่งด่วนอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้
และต้องเป็นกรณีเพื่อจะรักษาความปลอดภัยของประเทศหรือความปลอดภัยสาธารณะ หรือความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ
หรือป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ
หรือเป็นพระราชกำหนดเกี่ยวด้วยการภาษีอากรหรือเงินตราซึ่งจะต้องได้รับการพิจารณาโดยด่วนและลับเพื่อรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดินและเมื่อได้ประกาศใช้แล้วต้องเสนอพระราชกำหนดนั้นต่อสภาทันทีถ้ารัฐอนุมัติก็มีผลใช้บังคับเป็นพระราชบัญญัติต่อไป
พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ) คือ
กฎหมายที่พระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้นตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี
พระราชกฤษฎีกาจะออกได้ต่อเมื่อพระราชบัญญัติซึ่งถือเป็นกฎหมายแม่บทให้อำนาจไว้
พระราชกฤษฎีกาจึงเป็นเสมือนกฎหมายที่ไม่สามารถจะออกมาให้ขัดหรือแย้งกับกฎหมายแม่บท
และถ้ากฎหมายแม่บทถูกยกเลิก พระราชกฤษฎีกานั้นก็ถือว่าถูกยกเลิกไปด้วย
การประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เทศบัญญัติ คือ
กฎหมายที่เทศบาลออกเพื่อใช้บังคับในเขตเทศบาลทั้งนี้อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติเทศบาล
พ.ศ.2496
2.กฎหมายรัฐธรรมนูญ
ที่ใช้ในการปกครองประเทศ ปัจจุบันเป็นอย่างไร
ในการกำหนดออกกฎหมายสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดของการประกาศใช้เป็นอย่างไร
หากเราไม่มีรัฐธรรมนูญนักศึกษาคิดว่าจะเป็นอย่างไร อธิบาย
ตอบ กฎหมายรัฐธรรมนูญที่ใช้ในการปกครองประเทศในปัจจุบันนั้นเป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญใช้บังคับและถือเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภาโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ซึ่งเป็นกฎหมายที่ประชาชนสามารถใช้สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคเท่าเทียมกัน เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม
ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เช่นประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในการร่างรัฐธรรมนูญ
หรือมีส่วนลงประชามติให้ความยินยอม สังคมใดที่ไม่มีการประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชน
และไม่มีการแบ่งแยกการใช้อำนาจอธิปไตย สังคมนั้นไม่มีรัฐธรรมนูญ ในการกำหนดออกกฎหมายสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดของการประกาศใช้
คือ จะต้องคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมให้มากที่สุด และควรมีกฎเกณฑ์ มีกติกา
ระเบียบวัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละสังคมเป็นเครื่องยึดถือปฏิบัติ
เพื่อให้สังคมมีระเบียบ ทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยและอยู่อย่างสันติสุข หากเราไม่มีรัฐธรรมนูญดิฉันคิดว่าสังคมวุ่นวาย ไม่สามัคคีกัน
มีการแย่งชิงอำนาจเพื่อประโยชน์ส่วนตน สังคมไม่มีระเบียบ วินัย อันก่อให้เกิดความไม่สงบและสันติสุข
ดังนั้นมนุษย์เราไม่ว่าจะเป็นชนเชื้อชาติศาสนาใดเมื่อรวมกันอยู่ในสังคมจะต้องมีกฎเกณฑ์
มีกติกา ระเบียบวัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละสังคมเป็นเครื่องยึดถือปฏิบัติ
เพื่อให้สังคมมีระเบียบ ทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยและอยู่อย่างสันติสุข
3.ในสภาพปัจจุบันการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา
112
มีนักวิชาการต้องการจะแก้ไขท่านคิดว่าควรที่จะแก้ไขหรือไม่ประเด็นใดอธิบายให้เหตุผล
ตอบ ดิฉันคิดว่าไม่ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา
112 เนื่องจากกฎหมายอาญามาตรา
112 เป็นกฎหมายที่มิได้ห้ามเด็ดขาดมิให้ผู้ใดกระทำ
แต่เป็นกฎหมายที่บัญญัติขึ้นเพื่อปกป้องคุ้มครองประมุขของรัฐที่มีสถานะเป็นพระมหากษัตริย์และเป็นสถาบันพระมหากษัตริย์
อันอยู่ในสถานะที่มีความเกี่ยวพันทางวัฒนธรรม ประเพณีและความมั่นคงของประเทศ
ซึ่งผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี
รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ไม่ได้ มาตรา 112 เป็นเพียงกฎหมาย
ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการดังกล่าวเท่านั้น ดังนั้นผู้ใดจะหมิ่นประมาท
ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์หรือสถาบันพระมหากษัตริย์ย่อมกระทำได้
แต่ผู้นั้นก็ต้องรับผิดชอบกับการถูกดำเนินคดี ถูกศาลพิพากษาลงโทษเอง
4.กรณีเกิดความขัดแย้งระหว่างเพื่อนบ้านเรื่องชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาที่เป็นกรณีพิพากขึ้นศาลโลกเรื่องดินแดนท่านเป็นคนไทยคนหนึ่ง
มองปัญหานี้อย่างไร และจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไรเพื่อมิให้ไทยต้องเสียดินแดน
ตอบ ดิฉันคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา
ถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ซึ่งข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา ทั้งในกรณีปราสาทพระวิหาร
และเส้นเขตแดนทางบกกับทะเล
ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศนั้นประสบกับสภาวะถดถอย
แม้ที่ผ่านมาไทยกับกัมพูชา ต่างได้พยายามแก้ไขปัญหาข้อพิพาทร่วมกัน
แต่ด้วยอุปสรรคต่างๆ ไม่ว่าในส่วนของปัญหาระหว่างผู้นำของไทยและกัมพูชา
สภาพการเมืองภายในของทั้งสองประเทศ เป้าประสงค์ในการแก้ไขปัญหาที่ต่างกัน
และการรับรู้ข่าวสารที่คลาดเคลื่อน
ตลอดจนทัศนะคติที่ไม่ดีระหว่างประชาชนชาวไทยและกัมพูชา
ล้วนส่งผลกระทบต่อความพยายามของทั้งสองประเทศในการคลี่คลายปัญหา ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหา
คือ เสริมสร้างความสัมพันธ์ในทุกระดับ เสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน และควรพัฒนาพื้นที่พิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา
ให้เป็นพื้นที่ร่วมทางวัฒนธรรมหรือเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวร่วม เพื่อพัฒนาความร่วมมือทางวัฒนธรรม
และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศ
รวมถึงพิจารณาจัดให้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา
เป็นวาระแห่งชาติ ทั้งนี้
โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างทั้งสองประเทศเป็นหลักสำคัญ
เพื่อให้การดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาเป็นไปอย่างราบรื่น
นำมาซึ่งความสงบสุขและเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งของทั้งสองประเทศ
ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน
5.พระราชบัญญัติการศึกษาเปรียบเสมือนรัฐธรรมนูญการศึกษา
ท่านเห็นด้วย กับประเด็นนี้หรือไม่ อธิบายให้เหตุผล
ตอบ ดิฉันเห็นด้วยกับประเด็นที่ว่าพระราชบัญญัติการศึกษาเปรียบเสมือนรัฐธรรมนูญการศึกษา เพราะพระราชบัญญัติการศึกษาและรัฐธรรมนูญการศึกษา
เป็นหัวใจสำคัญและเป็นแนวทางในการร่างและเขียนพระราชบัญญัติการศึกษาขึ้นมา
เพื่อนำมาประกาศใช้และเพื่อพัฒนาปวงชนชาวไทยให้มีการศึกษาทุกคนอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง
ตามจุดมุ่งหมายของการพัฒนาศักยภาพคนไทย
6.ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ขอให้นักศึกษาให้ความหมาย การศึกษา
การศึกษาขั้นพื้นฐาน
การศึกษาตลอดชีวิต การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย สถานศึกษา
สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
มาตรฐานการศึกษา
การประกันคุณภาพภายใน
การประกันคุณภาพภายนอก ผู้สอน ครู
คณาจารย์ ผู้บริหารการศึกษา
ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา สถานศึกษา
ตอบ "การศึกษา" คือ กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้
การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการ
การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อม
สังคมการเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
"การศึกษาขั้นพื้นฐาน" คือ การศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา
"การศึกษาตลอดชีวิต" คือ การศึกษาที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างการศึกษาในระบบ
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
เพื่อให้สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
“การศึกษาในระบบ” คือ เป็นการศึกษาที่กำหนดจุดมุ่งหมาย
วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษา
การวัดและการประเมินผล
ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน
“การศึกษานอกระบบ” คือ เป็นการศึกษาที่มีความยืดหยุ่นในการกำหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ
วิธีการจัดการศึกษา
ระยะเวลาของการศึกษา
การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญของ
การสำเร็จการศึกษา
โดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหา
และความต้องการของบุคคลแต่ละกลุ่ม
“การศึกษาตามอัธยาศัย” คือ เป็นการศึกษาที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ
ศักยภาพ ความพร้อมและโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์
สังคม สภาพแวดล้อม สื่อ
หรือแหล่งความรู้อื่นๆ
"สถานศึกษา" คือ สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียน
ศูนย์การเรียนวิทยาลัย สถาบัน มหาวิทยาลัย
หน่วยงานการศึกษาหรือหน่วยงานอื่นของรัฐหรือของเอกชน ที่มีอำนาจหน้าที่หรือมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา
"สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน" คือ สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
"มาตรฐานการศึกษา" คือ ข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ
คุณภาพที่พึงประสงค์และมาตรฐานที่ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาทุกแห่ง
และเพื่อใช้เป็นหลักในการเทียบเคียงสำหรับการส่งเสริมและกำกับดูแล การตรวจ-สอบ
การประเมินผล และการประกันคุณภาพทางการศึกษา
"การประกันคุณภาพภายใน" คือ การประเมินผลและการติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจากภายใน โดยบุคลากรของสถานศึกษานั้นเอง
หรือโดยหน่วยงานต้นสังกัดที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถานศึกษานั้น
"การประกันคุณภาพภายนอก" คือ การประเมินผลและการติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจากภายนอก
โดยสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาหรือบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่สำนักงานดังกล่าวรับรอง
เพื่อเป็นการประกันคุณภาพและให้มีการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา
"ผู้สอน" คือ ครูและคณาจารย์ในสถานศึกษาระดับต่าง ๆ
"ครู" คือ บุคลากรวิชาชีพซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่าง
ๆ ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
"คณาจารย์" คือ บุคลากรซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการสอนและการวิจัยในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับปริญญาของรัฐและเอกชน
"ผู้บริหารสถานศึกษา" คือ บุคลากรวิชาชีพที่รับผิดชอบการบริหารสถานศึกษาแต่ละแห่ง
ทั้งของรัฐและเอกชน
"ผู้บริหารการศึกษา" คือ บุคลากรวิชาชีพที่รับผิดชอบการบริหารการศึกษานอกสถานศึกษาตั้งแต่ระดับเขตพื้นที่การศึกษาขึ้นไป
"บุคลากรทางการศึกษา" คือ ผู้บริหารสถานศึกษา
ผู้บริหารการศึกษารวมทั้งผู้สนับสนุนการศึกษาเป็นผู้ทำหน้าที่ให้บริการ
หรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ
และการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่าง ๆ
7.ในการจัดการศึกษานักศึกษาคิดว่ามีความมุ่งหมายและหลักการจัดการในการจัดการศึกษา
อย่างไร
ตอบ ความมุ่งหมายในการจัดการศึกษา คือ มุ่งพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ในมิติต่างๆ
ที่ถือว่าสำคัญทางการศึกษา ได้แก่ ร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม และมุ่งให้คนไทย
"มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข"
การเพิ่มมิติด้านสังคมนี้เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่มีความสมดุลระหว่างส่วนบุคคลและส่วนรวม
นอกจากนี้ในกระบวนการเรียนรู้ต้องมุ่งปลูกฝังจิตสำนึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
รู้จักรักษาและส่งเสริมสิทธิ หน้าที่ เสรีภาพ ความเคารพกฎหมาย ความเสมอภาค
และศักดิ์ศรีความเป็นประมุข มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย
รู้จักรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมและของประเทศชาติ รวมทั้งส่งเสริมศาสนา
ศิลปะวัฒนธรรมของชาติ การกีฬา ภูมิปัญญาท้องถิ่น ถูมิปัญญาไทย
และความรู้อันเป็นสากล ตลอดจนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
มีความสามารถในการประกอบอาชีพ รู้จักพึ่งตนเอง มีความริเริ่มสร้างสรรค์
ใฝ่รู้และเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง
หลักการจัดการในการจัดการศึกษายึดหลักดังนี้
(1) เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน คือ รัฐจะต้องจัดหรือส่งเสริมให้เอกชนและทุกๆส่วนในสังคมได้จัดการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
(2) ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา คือ กำหนดสิทธิของประชาชนที่จะจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานและกำหนดแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีของการสื่อสารเพื่อการศึกษา เพื่อให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษามากขึ้น
(3) การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง เป็นเงื่อนไขสำคัญของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาคุณภาพการศึกษาไทยจะล้าหลังประเทศอื่น ก็เพราะเราไม่จัดระบบของเราให้เกิดการพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
(1) เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน คือ รัฐจะต้องจัดหรือส่งเสริมให้เอกชนและทุกๆส่วนในสังคมได้จัดการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
(2) ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา คือ กำหนดสิทธิของประชาชนที่จะจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานและกำหนดแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีของการสื่อสารเพื่อการศึกษา เพื่อให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษามากขึ้น
(3) การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง เป็นเงื่อนไขสำคัญของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาคุณภาพการศึกษาไทยจะล้าหลังประเทศอื่น ก็เพราะเราไม่จัดระบบของเราให้เกิดการพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
8.มีบุคคลหนึ่งเข้าไปเป็นครูสอนหนังสือในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่เป็นประจำกรณีมิได้รับการบรรจุเป็นครู
หากพิจารณาตามกฎหมายถ้าผิดกฎหมายท่านคิดว่าจะถูกลงโทษอย่างไร
หากไม่ผิดกฎหมายท่านคิดว่าจะมีวิธีการทำอย่างไร
ตอบ การที่บุคคลหนึ่งเข้าไปเป็นครูสอนหนังสือในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่เป็นประจำกรณีมิได้รับการบรรจุเป็นครู
หากพิจารณาตามกฎหมายนั้นไม่ผิด เพราะ ในพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางศึกษา
พ.ศ.2546 ได้กำหนดไว้ว่าห้ามมิให้ผู้ใดประกอบวิชาชีพควบคุม
โดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่กรณีดังนี้คือ ผู้ที่เข้ามาให้ความรู้แก่ผู้เรียนในสถานศึกษาเป็นครั้งคราวในฐานะวิทยากรพิเศษทางการศึกษา ผู้ที่ไม่ได้ประกอบวิชาชีพหลักทางด้านการเรียนการสอนแต่ในบางครั้งต้องทำหน้าที่สอนด้วย รวมทั้งนักเรียน นักศึกษา หรือผู้รับการฝึกอบรมหรือผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติการสอน
ซึ่งทำการฝึกหัดหรืออบรมในความควบคุมของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาซึ่งเป็นผู้ให้การศึกษาหรือฝึกอบรม นอกจากนี้ผู้ที่จัดการศึกษาตามอัธยาศัย ผู้ที่ทำหน้าที่สอนในศูนย์การเรียนตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ คณาจารย์ และผู้บริหารสถานศึกษา และผู้บริหารการศึกษาในระดับอุดมศึกษาระดับปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน ตลอดจนผู้บริหารการศึกษาระดับเหนือเขตพื้นที่การศึกษา
9.หากนักศึกษาต้องการสอบบรรจุเป็นครูผู้ช่วยจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
ตอบ การสอบบรรจุเป็นครูผู้ช่วยจะต้องมีคุณสมบัติ คือ มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
ได้รับวุฒิปริญญาตรีทางการศึกษาหรือปริญญาตรีที่มีความรู้พื้นฐานทางวิชาชีพครู รวมทั้งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูหรือได้รับหนังสือรับรองสิทธิ์การประกอบวิชาชีพครูตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา และไม่เป็นพระภิกษุสามเณร
นักพรต นักบวช
10.ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นว่าเมื่อเรียนวิชานี้
นักศึกษาได้อะไรบ้าง ครูผู้สอนวิชาชีพโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ Weblog มีความเหมาะสม และเป็นไปได้อย่างไร วิจารณ์แสดงความคิดเห็น และถ้าจะให้น้ำหนัก วิชานี้
ควรให้เกรดอะไร
และนักศึกษาคิดว่าตนเองจะได้เกรดอะไร
ตอบ เมื่อดิฉันได้เรียนวิชานี้
ดิฉันได้รับความรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวกับกฎหมายการศึกษา พระราชบัญญัติ และระเบียบต่าง ๆ ของกระทรวงศึกษาธิการเพิ่มมากขึ้น ดิฉันคิดว่าความรู้ที่ดิฉันได้รับจากวิชานี้นำไปสู่การสอบบรรจุได้ ครูผู้สอนวิชาชีพโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
Weblog นั้นมีความเหมาะสม เพราะทำให้นักเรียนได้ศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่หลากหลาย
ได้แชร์ความรู้ที่ได้รับจากวิชานี้ และทำให้สะดวกในการค้นหาข้อมูล รวมทั้งรู้จักการใช้เทคโนโลยีในการเรียนให้เกิดประโยชน์ ที่สำคัญประหยัดค่าใช้จ่ายโดยไม่ต้องสิ้นเปลืองกระดาษ ถ้าจะให้น้ำหนักวิชานี้ควรให้เกรด
A และดิฉันคิดว่าตนเองควรจะได้เกรด A
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น